ประวัติความเป็นมาของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา

เดิมเป็นหน่วยงานเคลื่อนที่อบรมส่วนภูมิภาค กองฝึกอบรมกรมส่งเสริมสหกรณ์ตั้งอยู่ ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ต่อมาในปี พ.ศ.2526 ได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารโลก จึงได้มาตั้งประจำอยู่ส่วนภูมิภาคใช้ชื่อว่า “ศูนย์ฝึกอบรมสหกรณ์ที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา” โดยใช้บ้านพักข้าราชการเป็นสำนักงานชั่วคราว

ในปี พ.ศ.2528 ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น ด้านงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารและครุภัณฑ์แบบให้เปล่า โดยได้มีการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น การก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกอบรมสหกรณ์ส่วนภูมิภาคแห่งนี้ โดย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูรานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์อาคาร เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2528 และการก่อสร้างได้เสร็จเรียบร้อย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2529 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ศูนย์ฝึกอบรมสหกรณ์ที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา”

ต่อมาในปี พ.ศ.2545 รัฐบาลได้ปฏิรูประบบราชการจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 3” สังกัดสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และในปี พ.ศ.2547 ได้มีประกาศกรมส่งเสริมสหกรณ์ เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งงานภายในของสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา” โดยมีพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ

ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

1. ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรในขบวนการสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และประชาชนทั่วไป ด้านการสหกรณ์ ด้านการบริหารจัดการองค์กร ด้านธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีการแปรรูป และด้านการผลิตและการบำรุงรักษา ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

2. ศึกษาหาความจำเป็นในการสร้างหลักสูตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่

3. ศึกษา วิเคราะห์ ความจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกอบรมเพื่อสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมที่เหมาะสม

4. ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการสหกรณ์ ด้านการบริหารจัดการองค์กร ด้านธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีการแปรรูป และด้านการผลิตและการบำรุงรักษาให้กับบุคลากรของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร บุคลากรในสถานศึกษา ประชาชนทั่วไปในพื้นที่รับผิดชอบ และสหกรณ์ระหว่างประเทศ

5. ดำเนินการบริหารจัดการความรู้ของขบวนการสหกรณ์ ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องอย่างยั่งยืน

6. ประสานงานสำนักงานสหกรณ์จังหวัด สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่ความรับผิดชอบ เพื่อศึกษาความต้องการในการฝึกอบรมของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร และนำมาจัดทำแผนการฝึกอบรมให้สอดคล้องตรงกับความต้องการของสหกรณ์สมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร

7. จัดทำแผนการฝึกอบรม จัดทำชุดฝึกอบรม บริหารโครงการฝึกอบรม

8. ประเมินผลการฝึกอบรม อำนวยการและประสานงานโครงการฝึกอบรม เป็นวิทยากรในการฝึกอบรม

9. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และจัดทำแผนการพัฒนาบุคลากรกรม เพื่อรองรับกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเป็นระบบ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ

10. ส่งเสริมและเผยแพร่องค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนให้แก่บุคลากรกรม

11. เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาบุคลากรด้านการสหกรณ์ในภูมิภาคอาเซียน

12. ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย